ใครขับเกียร์ออโต้ต้องรู้ไว้จะได้ไม่ทำเกียร์พัง

สำหรับใครก็ตามที่มีรถยนต์นั้นเราก็คงจะทำประกันรถยนต์ภาคสมัครกันเสียเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับรถยนต์ของเราได้นั่นเอง โดยประกันภัยรถยนต์ชั้น1 นั้นก็จะเป็น ประกันรถยนต์ ที่คนส่วนใหญ่นิยมทำสำหรับรถยนต์ที่เพิ่งถอยออกมาใช้งาน ส่วน ประกัน รถยนต์ 2 หรือ ประกันชั้น 3 นั้นก็จะเป็นไปตามความคุ้มครองที่อต่ละคนนั้นต้องการ แต่ในส่วนของประกันรถยนต์ภาคบังคับนั้นก็จะเป็นไปตาม พรบ รถยนต์ ซึ่งมีกฎหมายบังคับไว้ว่าให้ รถทุกคนนั้นต้องทำประกันรถยนต์
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์แบบใดก็ตามเราก็ควรที่จะดูแลรักษาและใช้งานมันอย่างถูกวิธี อย่างเช่น ในรถยนต์เกียร์ออโต้หรือระบบเกียร์อัตโนมัติทั้งแบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์และ CVT นั้นก็ด้วย เราควรจะขับให้ถูกวิธีไม่งั้นระบบเกียร์ได้พังไวแน่ๆ และแม้ระบบเกียร์ออโต้จะถูกปรับปรุงให้มีความทนทานขึ้นกว่าสมัยก่อนเป็นอย่างมาก แต่ทว่าหากเรานั้นใช้งานไม่ถูกวิธีมันก็อาจจะสร้างความเสียหายให้กับชุดเกียร์ออโต้ได้เช่นกัน ฉะนั้นในวันนี้สำหรับใครก็ตามที่ขับรถยนต์เกียร์ออโต้นั้นเราก็มีข้อแนะนำที่นำมาฝากทุกๆ คนกันด้วย ซึ่งนั่นก็คือ พฤติกรรมหรือการกระทำที่เรานั้นไม่ควรจะทำกับรถเกียร์ออโต้ ซึ่งมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่า
1. การปล่อยให้รถยนต์ไหลในตำแหน่งของเกียร์ N เพราะการปล่อยรถยนต์ไหลเข้าไฟแดงในตำแหน่งของเกียร์ N นั้นเป็นการทำร้ายชุดเกียร์โดยตรง ทั้งนี้ก็เนื่องจากปั๊มน้ำมันเกียร์นั้นจะหยุดการฉีดจ่ายน้ำมัน ซึ่งมันจำเป็นต่อการหล่อลื่นของชุดเกียร์โดยมันจะทำให้ชุดเกียร์เกิดความร้อนมากกว่าปกติ และก็จะทำให้ฟันเฟืองเกิดความเสียหายได้ในระยะยาวนั่นเอง
2. การขับรถยนต์แบบออกตัวแบบกระชาก ทั้งนี้ก็เพราะว่าการออกตัวแบบกระชากด้วยการเร่งรอบเครื่องยนต์ในตำแหน่งเกียร์ว่างแล้วใส่เกียร์ D เพื่อทำให้รถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วนั้น มันจะะทำให้ชุดเกียร์และเพลนก็จะส่งผลให้เกิดความเสียหายได้ในระยะยาวนั่นเอง
3. การทำคิกดาวน์เป็นประจำ โดยการคิกดาวน์นั้นก็คือ การกดแป้นคันเร่งจมมิดเพื่อเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ ซึ่งมันก็จะช่วยให้รถพุ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว และก็จะเหมาะสำหรับการเร่งแซงหรือขณะอยู่ในสถานการณ์คับขันด้วย แต่ทั้งนี้การทำคิกดาวน์บ่อยๆ นั้นมันก็จะส่งผลทำให้ชุดเกียร์ต้องรับแรงบิดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วมันก็จะส่งผลให้อายุการใช้งานของเกีวรลากด้วยการยกล้อขับเคลื่อนขึ้นเหนือพื้นทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ระบบส่งกำลังได้รับความเสียหาย แต่ทว่าหากเรามีความจำเป็นต้องลากนถโดยไม่ยกรถจริงๆ ก็ควรใช้ความเร็วให้น้อยที่สุดประมาณ 20-30 กม./ชม. เพื่อไปยังอู่ใกล้เคียงเท่านั้น และก็ไม่ควรลากเป็นระยะทางไกลๆ เนื่องจากว่าการลากรถเกียร์อัตโนมัติจะทำให้เกิดความร้อนสูงในห้องเกียร์แล้วมันก็จะส่งผลให้เกียร์ได้รับความเสียหายได้นั่นเอง