ประกันรถยนต์ สำคัญไฉน

          การประกันรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1  หรือชั้นไหน ๆ ก็ย่อต้องมีความสำคัญด้วยกันทั้งนั้น หรือไม่ว่าจะเป็นการประกันภาคบังคับอย่าง พรบรถยนต์ หรือภาคสมัครใจ โดยเฉพาะการประกันชั้น1 ราคาค่าเบี้ยย่อมต้องสูงเป็นธรรมดาการประกันชั้นอื่น ๆ แต่ยังมีประกันชั้น 2 ให้เลือกโดยประกันชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้างมาดูกันดีกว่า

การประกันรถยนต์เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะการประกันมีอยู่มากในสาระสำคัญ ดังนี้
ความหมายของการประกันรถยนต์   การประกันรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น1 หรือชั้นไหน ๆ ก็ย่อต้องมีความสำคัญด้วยกันทั้งนั้น หรือไม่ว่าจะเป็นการประกันภาคบังคับอย่าง  พรบรถยนต์ หรือภาคสมัครใจ โดยเฉพาะการประกันชั้น1 ราคาค่าเบี้ยย่อมต้องสูงเป็นธรรมดาการประกันชั้นอื่น ๆ แต่ยังมีประกันชั้น 2 ให้เลือกโดยประกันชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้างมาดูกันดีกว่า
การประกันรถยนต์เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะการประกันมีอยู่มากในสาระสำคัญ ดังนี้
ความหมายของการประกันรถยนต์
          การประกันภัยรถยนต์ (Motor Insurance) จัดเป็นการประกันวินาศภัยประเภทหนึ่ง ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยเมื่อเกิดความสูญเสียหรือความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ซึ่งการประกันความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ประกอบด้วย

1. ความเสียหายที่เกิดแก่รถยนต์
2. ความเสียหายที่เกิดแก่รถยนต์ และได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้น

         สรุปความหมายของการประกันภัยรถยนต์ หมายถึง การที่บุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่า “ผู้เอาประกันภัย” ได้โอนความเสี่ยงภัยเกี่ยวกับรถยนต์ไปให้บุคคลอื่นซึ่งเรียกว่า“ผู้รับประกันภัย” รับเสี่ยงภัยแทน โดยผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเรียกว่า “เบี้ยประกันภัย” ให้กับผู้รับประกันภัย เป็นการตอบแทนที่ผู้รับประกันภัยยอมรับความเสี่ยงภัยไว้แทน  หากรถยนต์คันที่เอาประกันภัยไว้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ตัวรถยนต์ หรือแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลที่โดยสารอยู่ภายในรถยนต์ ตลอดจนบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากรถยนต์ที่เอาประกันภัยคันดังกล่าว ผู้เอาประกันภัยจะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายที่เรียกว่า “ค่าสินไหมทดแทน” โดยผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ตามจำนวนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ได้ตกลงทำสัญญาไว้

         สรุปเพื่อการเข้าใจง่าย ๆ เกี่ยวกับการประกันรถยนต์ อันเกี่ยวกับคำสำคัญต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำสัญญาประกันภัยรถยนต์ เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้

1. ผู้เอาประกันภัย ได้แก่ ลูกค้าผู้ทำประกันภัย
2. ผู้รับประกันภัย ได้แก่ บริษัทผู้รับประกันภัย
3. เบี้ยประกันภัย ได้แก่ เงินที่ผู้เอาประกันจ่ายให้บริษัทรับประกันภัย เป็นเป็นค่าประกันภัย
4. ค่าสินไหมทดแทน ได้แก่ เงินที่บริษัทประกันจ่ายให้แก่ผู้เสียหายเพื่อเป็นค่าชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น

         ก็เป็นที่เข้าใจกันได้แล้วนะครับว่าการประกันรถยนต์นั้นมีความหมายว่าอย่างไร แต่การประกันภัยรถยนต์นั้นยังมีข้อจำกัดอีกหลายประการซึ่งจะได้ระบุไว้ในสัญญาประกันภัย ซึ่งผู้รับประกันหรือบริษัทประกันภัยจะได้แจ้งไว้ในสัญญาประกันภัย และเป็นที่รู้กันระหว่างผู้เอาประกัน กับผู้รับประกัน ซึ่งยังแบ่งย่อยออกไปอีกเช่น ตัวแทน หรือโปรกเกอร์ ซึ่งก็จะมีเงื่อนไขอื่น ๆ อีกตามสมควร หรือมีของแถมให้อีกด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้เราประกันจะเลือกทำประกันกับบริษัทอะไร หรืกับตัวแทนโปรกเกอร์ที่ไหน เช่น ของแถมเป็นเป็นบัตรเติมน้ำมัน หรือส่วนลดค่าเบี้ยก็ตาม

         โดยเฉพาะเกี่ยวกับบริษัทประกันภัย มีให้เลือกมากมายหลายบริษัท ซึ่งผู้เอาประกันจะต้องพิจารณาให้ดีว่าจะเลือกบริษัทไหนให้เป็นผู้รับประกัน เพราะบริษัทประกันภัยตางก็มีดีไปกันคนละแบบ เช่น ค่าเบี้ยถูก เคลมเร็ว เคลมง่าย การซ่อมทั้งอู่และศูนย์ดี และมีเงื่อนไขที่ดีกว่ากัน ซึ่งเป็นวิธีการที่จะหาลูกค้าได้ดีกว่า ตัวแทนหรือโปรกเกอร์ที่ไว้ใจได้  

          การประกันภัยรถยนต์ (Motor Insurance) จัดเป็นการประกันวินาศภัยประเภทหนึ่ง ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยเมื่อเกิดความสูญเสียหรือความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ซึ่งการประกันความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ประกอบด้วย

1. ความเสียหายที่เกิดแก่รถยนต์
2. ความเสียหายที่เกิดแก่รถยนต์ และได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้น

         สรุปความหมายของการประกันภัยรถยนต์ หมายถึง การที่บุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่า “ผู้เอาประกันภัย” ได้โอนความเสี่ยงภัยเกี่ยวกับรถยนต์ไปให้บุคคลอื่นซึ่งเรียกว่า“ผู้รับประกันภัย” รับเสี่ยงภัยแทน โดยผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเรียกว่า “เบี้ยประกันภัย” ให้กับผู้รับประกันภัย เป็นการตอบแทนที่ผู้รับประกันภัยยอมรับความเสี่ยงภัยไว้แทน  หากรถยนต์คันที่เอาประกันภัยไว้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ตัวรถยนต์ หรือแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลที่โดยสารอยู่ภายในรถยนต์ ตลอดจนบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากรถยนต์ที่เอาประกันภัยคันดังกล่าว ผู้เอาประกันภัยจะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายที่เรียกว่า “ค่าสินไหมทดแทน” โดยผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ตามจำนวนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ได้ตกลงทำสัญญาไว้

         สรุปเพื่อการเข้าใจง่าย ๆ เกี่ยวกับการประกันรถยนต์ อันเกี่ยวกับคำสำคัญต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำสัญญาประกันภัยรถยนต์ เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้

1. ผู้เอาประกันภัย ได้แก่ ลูกค้าผู้ทำประกันภัย
2. ผู้รับประกันภัย ได้แก่ บริษัทผู้รับประกันภัย
3. เบี้ยประกันภัย ได้แก่ เงินที่ผู้เอาประกันจ่ายให้บริษัทรับประกันภัย เป็นเป็นค่าประกันภัย
4. ค่าสินไหมทดแทน ได้แก่ เงินที่บริษัทประกันจ่ายให้แก่ผู้เสียหายเพื่อเป็นค่าชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น

         ก็เป็นที่เข้าใจกันได้แล้วนะครับว่าการประกันรถยนต์นั้นมีความหมายว่าอย่างไร แต่การประกันภัยรถยนต์นั้นยังมีข้อจำกัดอีกหลายประการซึ่งจะได้ระบุไว้ในสัญญาประกันภัย ซึ่งผู้รับประกันหรือบริษัทประกันภัยจะได้แจ้งไว้ในสัญญาประกันภัย และเป็นที่รู้กันระหว่างผู้เอาประกัน กับผู้รับประกัน ซึ่งยังแบ่งย่อยออกไปอีกเช่น ตัวแทน หรือโปรกเกอร์ ซึ่งก็จะมีเงื่อนไขอื่น ๆ อีกตามสมควร หรือมีของแถมให้อีกด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้เราประกันจะเลือกทำประกันกับบริษัทอะไร หรืกับตัวแทนโปรกเกอร์ที่ไหน เช่น ของแถมเป็นเป็นบัตรเติมน้ำมัน หรือส่วนลดค่าเบี้ยก็ตาม

         โดยเฉพาะเกี่ยวกับบริษัทประกันภัย มีให้เลือกมากมายหลายบริษัท ซึ่งผู้เอาประกันจะต้องพิจารณาให้ดีว่าจะเลือกบริษัทไหนให้เป็นผู้รับประกัน เพราะบริษัทประกันภัยตางก็มีดีไปกันคนละแบบ เช่น ค่าเบี้ยถูก เคลมเร็ว เคลมง่าย การซ่อมทั้งอู่และศูนย์ดี และมีเงื่อนไขที่ดีกว่ากัน ซึ่งเป็นวิธีการที่จะหาลูกค้าได้ดีกว่า ตัวแทนหรือโปรกเกอร์ที่ไว้ใจได้